เป็นโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดแพร่ คือ “คุ้มเจ้าหลวงแพร่” ซึ่งเดิมเคยเป็นที่พำนักของ เจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ ผู้ครองเมืองแพร่องค์สุดท้าย อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2435 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ โคโลเนียลผสมล้านนา มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ใต้ถุนสูง ออกแบบให้โปร่งโล่ง พร้อมช่องลมเพื่อการระบายอากาศ
ปัจจุบัน คุ้มเจ้าหลวงแพร่ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชม ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ และบอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เช่น กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ ในปี พ.ศ. 2445 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเมืองแพร่ นอกจากนี้ บริเวณใต้ถุนอาคารยังมี “คุกใต้ดิน” ที่เชื่อว่าเคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษในอดีต สร้างบรรยากาศลึกลับและน่าค้นหา
เหตุการณ์ กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ ในปี พ.ศ. 2445 นำไปสู่การที่เมืองแพร่ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสยามอย่างสมบูรณ์ ภายหลังจากการปราบปราม สยามได้เข้าควบคุมเมืองแพร่อย่างเด็ดขาด ยกเลิกระบบเจ้าผู้ครองนคร และปรับเปลี่ยนเป็นการปกครองแบบ มณฑลเทศาภิบาล ภายใต้การดูแลของรัฐบาลสยามโดยตรง นับแต่นั้นมา เมืองแพร่จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของสยาม (ประเทศไทยในปัจจุบัน) อย่างเต็มตัว
คุ้มเจ้าหลวงแพร่จึงเป็นมากกว่าสถาปัตยกรรมโบราณ แต่เป็นสัญลักษณ์ของยุคเปลี่ยนผ่าน และเป็นหน้าต่างสู่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การศึกษาและเยี่ยมชม