5 มิถุนายน 2568 จากกรณีมีผู้โพสต์ คลิปวีดีโอเผยแพร่ ลงโซเชียล พบวัตถุโบราณจำนวนมากภายในไซต์งานก่อสร้างบริเวณจุฬาลงกรณ์ซอย 9 เขตปทุมวัน จึงกลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดีย โดยมีการคาดการณ์อายุของสิ่งของเหล่านั้นว่าอาจย้อนไปได้ถึง 150-200 ปี สำนักงานเขตปทุมวันเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการขุดพบสิ่งของโบราณจำนวนมากภายในไซต์งานก่อสร้าง และมีการส่งต่อเป็นวงกว้าง โดยสิ่งของบางส่วนได้ถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างไซต์งานก่อสร้างดังกล่าว
นางสาวเพ็ญประภา พลอยสีสวย อายุ 47 ปี ผู้ดูแลศาลเจ้าแม่ทับทิม ให้ข้อมูลว่า มีการขุดพบสิ่งของเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ก่อสร้าง และที่เห็นในวันนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่มีผู้มามอบให้และนำมาวางไว้ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม ส่วนคลิปที่มีการแชร์ออกไปนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ และปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอายุหรือความเก่าแก่ของสิ่งของเหล่านี้แต่อย่างใด นางสาวเพ็ญประภาระบุเพิ่มเติมว่า ตนทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวในอดีตเคยเป็นชุมชนเชียงกงเก่า และตนเพิ่งเข้ามาดูแลศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538
ในเวลาเดียวกัน นายอิทธิพล อิงประสาน ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ได้รับทราบข่าวและเห็นคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ออกไป จึงได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลและพูดคุยกับนางสาวเพ็ญประภา ก่อนจะเดินตรวจสอบสิ่งของต่างๆ ที่วางอยู่บริเวณหน้าศาล
ผู้อำนวยการเขตปทุมวันให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประวัติพื้นที่ดังกล่าวว่า เดิมเป็นชุมชนเชียงกงเก่า และเคยมีตลาดในบริเวณนี้ สำหรับสิ่งของเครื่องใช้ 6 ชิ้นที่วางอยู่หน้าศาล เช่น กาน้ำชาและโถใส่ของสมัยก่อนนั้น ดูแล้วอายุไม่น่าจะถึงร้อยปี โดยเฉพาะกาน้ำชา นายอิทธิพล อิงประสาน (ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน) ยังกล่าวอีกว่าเป็นไปได้ที่จะมีการขุดพบสิ่งของ วัตถุ หรือภาชนะเก่าแก่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่หมดสัญญาและมีการรื้อถอนชุมชนเก่าออกไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงตามคลิปที่กำลังเป็นกระแส สำนักงานเขตปทุมวันจะประสานงานกับเจ้าของพื้นที่และหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อเข้ามาตรวจสอบต่อไป
ด้านนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 28 ปี นักเคลื่อนไหวและนักอนุรักษ์ศาลเจ้า ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า จากการพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนและนักศึกษาวัตถุโบราณชาวจีน คาดว่าอายุของสิ่งของเหล่านี้อาจอยู่ในช่วงสมัยสาธารณรัฐจีน หรือประมาณรัชกาลที่ 6 ถึงรัชกาลที่ 7 ของไทย ซึ่งมีอายุราว 80-100 ปี ถือว่ามีความเก่าแก่และเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าพื้นที่นี้เคยเป็นชุมชนชาวจีนที่มีอายุเก่าแก่กว่าที่หลายคนคาดคิด นายเนติวิทย์เสนอให้ติดต่อกรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูล
ข้อมูลเพิ่มเติม
