ลดความสูงอาคารสตง. ด้านหน้า ถึงชั้น 1 คงเหลือ โซน C

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้าการรื้อถอนซากอาคารสตง. ซึ่งในวันนี้ครบกำหนดเวลา 1 เดือน ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถลดทอนความสูงของโครงสร้างลงมาเหลือเฉลี่ยประมาณ 1.37 เมตร ซึ่งหากมองโครงสร้างด้านหน้าขณะนี้จพสามารถมองเห็นผนังของชั้นใต้ดินได้ โดยหากวัดระดับจากด้านข้างอาคารที่เป็นระดับเดียวกับพื้นชั้น 1 ก็จะเห็นว่าขณะนี้ระดับความสูงของโครงสร้างด้านหน้าลงมาเทียบเท่ากับบริเวณพื้นชั้น 1 แล้ว คงเหลือแต่โครงสร้างด้านหลัง ที่ยังคงมีความลาดเอียงชัน ซึ่งแผนการดำเนินงานในวันนี้จะมีการ เร่งนำชิ้นส่วนโครงสร้างที่พังถล่มลงมาออกตรงจุดโซน C ใกล้อาค่รจอดรถ โดยการแย็กปูนและเหล็กออก เพื่อปรับโครงสร้างให้สมดุลกับจุดด้านหน้า และเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงชั้นใต้ดินได้

ส่วนการนำผู้ติดค้างออกจากใต้ซากอาคารเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้ติดค้างออกมาได้เพิ่มเติม 1 คน จากบริเวณโซน D และเจอชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีก 5 เคส ในกองซากอาคาร ขณะเดียวกัน ยังพบ ชิ้นส่วนอีก 1 ชิ้น ที่กองเศษปูน

สำหรับปัญหาที่พบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคง ต้องมีการปรับแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่นการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ในบางโซนที่ต้องใช้กำลังคน ปรับเครื่องจักรให้สอดคล้องระดับชั้นความสูงและพื้นที่ ซึ่งวันนี้จะมีการปรับแผนถอนการใช้รถแบ็กโฮ SK-1000 หรือจอมมารบู ออกจากพื้นที่เพราะสภาพโครงสร้างขณะนี้ต่ำกว่าระดับเซ็นเซอร์ที่เครื่องจักรจะสามารถตรวจสอบได้ โดยจะมีการเสริมรถแบ็กโฮหัวกระแทกเข้ามาแทน ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลการปฏิบัติงานเพราะต้องยอมรับว่า การถล่มลงมาของอาคาร ซึ่งการจะขุดไปถึงชั้นใต้ดินได้หลังจากนี้ ยังไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากมีอุปสรรค เนื่องจากลักษณะคอนกรีตมีความสมบูรณ์ บางจุดมีเศษซากชิ้นส่วนแตกหัก ซึ่งก็เป็นปัญหาที่แตกต่างกัน แต่เบื้องต้นกำหนดเป้าหมายว่าจะดำเนินการให้ได้วันละ 1 เมตร ซึ่งหากสามารถทำได้การทำงานก็จะเสร็จได้รวดเร็วขึ้น
แต่ยืนยันภายในเดือนพฤษภาคมจะสามารถเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดได้แล้วเสร็จอย่างแน่นอน

Total
0
Shares
Previous Article

จันทบุรี เปิดตลาดสินค้าเกษตรสู่สากล

Next Article

สภาทนายความ พร้อมช่วยเหยื่ออาคาร สตง. ถล่มฟรี

Related Posts