ยังคงเป็นประเด็นร้อน กรณี เงิน 12 ล้านบาท ที่นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว อ้างว่าเป็นเจ้าของ ล่าสุดวันนี้ (9 มิถุนายน) 3 ส.ส. พรรคประชาชน ยื่นกรมสรรพากรตรวจสอบภาษีของนายทวีวัฒน์ หลังพบอ้างเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท แต่กลับยื่นรายได้เพียงปีละ 1 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงที่มาของเงินสดจำนวนมากที่พบในช่วงใกล้การประมูลคลื่น กสทช.
วันนี้ (9 มิถุนายน) ส.ส. พรรคประชาชน ได้แก่ นางสาวรักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ, นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ ส.ส.สมุทรปราการ และ นางสาวภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกรมสรรพากร เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบภาษีของ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท
นางสาวรักชนก เผยว่า นายทวีวัฒน์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษา กสทช. และอนุกรรมการ ยื่นรายได้ต่อกรมสรรพากรเพียงปีละ 1 ล้านบาท แต่กลับอ้างสิทธิ์ในเงิน 12 ล้านบาทที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นของใคร จึงเกิดข้อสงสัยว่าเงินจำนวนนี้ได้มีการแสดงรายได้ต่อกรมสรรพากรหรือไม่ และต้องการให้ธนาคารกสิกรไทยเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เนื่องจากธนบัตรมีเลขเรียงกัน สามารถตรวจสอบที่มาของเงินได้
ว่าออกมาล็อตไหนปีไหน”
ด้าน นางสาวภคมน ตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายทวีวัฒน์มีรายได้สูงถึงขนาดนี้แต่กลับไม่ชี้แจงเรื่องภาษี อาจเป็นช่องโหว่ที่นำไปสู่การทุจริตภายใน กสทช. นอกจากนี้ เธอยังชี้ถึงตำแหน่งภรรยาของนายทวีวัฒน์ที่เป็น ผอ. ใน ป.ป.ช. ซึ่งจะต้องมีการแสดงบัญชีทรัพย์สินอย่างแน่นอน พรรคประชาชนจึงเตรียมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสถานะสามีภรรยาต้องแสดงทรัพย์สินร่วมกัน
นางสาวพนิดา เสริมว่า แม้บางส่วนจะมองว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจนพอให้สรรพากรตรวจสอบได้ แต่พรรคประชาชนมองว่าหลักฐานที่มีเพียงพอแล้วที่จะร่วมกับหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบได้ หากยังไม่สามารถตรวจสอบได้ อาจทำให้ผู้ที่กระทำความผิดโดยไม่เสียภาษีได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องถูกลงโทษ โดย”เราตั้งคำถามไปตั้งแต่พบกล่องวันที่ 29 มิถุนายน หรือไม่”
ทั้งนี้ การตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใสของเงิน 12 ล้านบาทนี้ มีขึ้นเนื่องจากนายทวีวัฒน์มีอำนาจในการตัดสินใจและเป็นระดับอนุกรรมการ พรรคประชาชนจึงตั้งข้อสงสัยว่าเงินกล่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่นความถี่ของ กสทช. ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายนนี้หรือไม่ จึงเรียกร้องให้หลายหน่วยงานช่วยกันตรวจสอบ
เบื้องต้น นางลัดดา เอกอัจฉริยา นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเลขานุการกรมสรรพากร ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว และคาดว่าจะทราบรายละเอียดภายใน 60 วัน
