เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 68 เวลา 15.00 น. ที่กองอำนวยการร่วม นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการปฏิบัติงาน กู้ภัยผู้ติดค้างอยู่ในอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
นายชัชชาติ เผยว่าการทำพิธีสวดมนต์ให้กับผู้ประสบภัย และสร้างขวัญกำลังใจให้กับญาติเป็นไปด้วยดี สมเด็จพระมหารัชมงคล หรือเจ้าคุณธงชัย และพระสงฆ์อีก 103 กว่ารูป ทำให้เกิดความกำลังใจและมีญาติของผู้เสียหายมาร่วมกว่า 100 ท่านซึ่งเจ้าคุณธงชัยก็มีการประทานผ้ายันต์มาให้ ยืนยันว่าพยานดังกล่าวศักดิ์สิทธิ์จริง เพราะตนเองใช้บริการมานาน
โดยเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับญาติ ตนมีโอกาสได้คุยกับญาติก็ได้แจ้งว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่หน้างานแล้ว ถึงแม้จะเจอผู้รอดชีวิตแต่ก็ต้องไปโรงพยาบาลก่อน และสามารถแจ้งได้ว่าให้ไปพักที่ไหน หรือหากโชคร้ายเป็นผู้เสียชีวิตก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวตนพอสมควร เพราะอย่างไรก็ตามก็สามารถแจ้งเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากจะอยากอยู่ที่นี่ก็พร้อมจะให้อยู่ได้ไม่มีปัญหาอะไรหรืออยากอยู่ที่สบายขึ้นก็มีที่พักพิงแบบเต็มรูปแบบที่วัดเสมียนนารีให้พักพิงได้ ยืนยันจะดูแลญาติผู้เสียหายเหมือนกับญาติของตัวเองมีความเจ็บให้ได้ป่วยก็ขอให้บอกไม่ต้องกังวลหรือคนไหนก็ต้องการหางานนั้นก็ให้สามารถบอกได้อย่างญาติเสียชีวิตขาดผู้นำในครอบครัวก็สามารถประสานเจ้าหน้าที่ได้เพื่อให้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งทางญาติก็รู้สึกว่ามีจิตใจดีขึ้นได้เห็นจุดเกิดเหตุและการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ว่าต้องรออย่างไรรวมถึงมีล่ามอาสามาช่วยอย่างเต็มที่
เรื่องต่อมา คือการทำให้ขวัญและกำลังใจของพนักงานดีขึ้น เพราะตนอยู่ในพื้นที่นี้กว่า 13 วันเป็นเรื่องที่เหนื่อย และมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น อย่างเช่นเครื่องจักรเข้าไปแล้วเสียตลอด หรือเข้าไปรถใหม่ๆก็เสียแต่พอทำบุญแล้วก็ได้กราบเรียนปัญหาให้สมเด็จทราบก็แผ่เมตตาให้ เชื่อว่าทุกคนมีความกำลังใจที่ดีขึ้น และลุล่วงไปได้ดี เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้สร้างขวัญกำลังใจ และตั้งใจทำงานได้ดีขึ้นตนมองว่าเรื่องนี้ได้ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้ทุกคนด้วยขอให้อโหสิกรรมให้กันและให้ผู้รอดชีวิตออกมาได้
ส่วนการดำเนินการนั้นก็ก้าวหน้าไปมากแต่ยังติดอุปสรรคเช่นเมื่อวานนี้รถเครน SK1000 ทำได้ดีแต่ว่าไฮดรอลิคแตก ก่อนหน้านี้ปัญหาของเราคือการที่แบคโฮที่มีอยู่ไม่สามารถเอื้อมไปถึงบนยอดของซากอาคารได้ แต่เมื่อมีแบคโฮ SK1000 นั้นสามารถเอื้อมไปบนยอดแล้วนำซากอาคารออกมาได้ ซึ่งจากข้อมูลของผู้รับเหมาที่ทำงาน ชั้น 29 มีอยู่ประมาณ 14 คน ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็เจอหนึ่งคน และคาดหวังว่าจะเจอผู้ประสบภัยตรงบริเวณนั้น ซึ่ง ระหว่างทางเชื่อมระหว่างโซน B โซน C เราพบร่างผู้เสียชีวิตมากขึ้น โดยทางเชื่อมอยู่บริเวณชั้นสามและชั้นสี่เชื่อมกับอาคารขอดรถที่คาดว่าจะมีผู้วิ่งออกมาบริเวณตรงนี้
นายชัชชาติ กล่าวว่ามีอุปสรรคเยอะอยู่ระหว่างการซ่อมแซม ยืนยันว่าอุปกรณ์ในวันนี้พอ 100% โดยให้ระวังในช่วงสงกรานต์ที่อาจจะบริษัทปิดนั้นต้องมีการตุนอุปกรณ์เครื่องมือเอาไว้ก่อน อย่างเครนที่ได้รับการบริจาคนั้นก็รับเอาไว้ก่อน ยืนยันว่าน้ำมันมีพอแต่สามารถบริจาคเพิ่มได้เชื่อว่ามีอุปกรณ์ครบถ้วน ซึ่งจะมีการมองภาพรวมไปถึงอนาคต เพราะในช่วงสงกรานต์ต้องระวังร้านค้าอาจจะปิดได้อะไหล่ไม่พอ
ซึ่งทางอิตาเลียนไทยก็ดำเนินการอยู่อุปสรรคอีกอย่าง คือการรื้อย้ายจะยากขึ้น เพราะมีพื้นที่เป็นลวดอัดแรงที่มีความเหนียวกว่าปกติ ถ้าหากเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กธรรมดาจะมีความแข็งแรงน้อยกว่าลวดอัดแรง ด้านบนเป็นพื้นลวดอัดแรงเยอะรถแบคโฮจึงไม่สามารถทำให้ขาดได้จึงต้องใช้แรงงานคนขึ้นไปตัดในการตัดเหล็กให้ขาดทำให้สามารถ ตะกุยลงมาได้ หน้างานทำได้กว่า 40% แล้ว คาดว่าตามเป้าหมาย คือสิ้นเดือนนี้
นายชัชชาติยังกล่าวอีกว่า โดยวันนี้ทางวันนี้ทางสำนักงานระบายน้ำได้มา วางระบบท่อระบายน้ำบริเวณรอบไซด์งานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม แต่ตนแปลกใจที่ฝนตกเฉพาะบริเวณไซด์งาน มองว่าการที่ฝนตกลงมานั้นช่วยทำให้ปริมาณฝุ่นในพื้นที่ลดน้อยลง / ส่วนเทศกาลสงกรานต์ในเทศกาลสงกรานต์ก็ขอให้ทุกคนเต็มที่กับเทศกาลส่วนเหตุการณ์ตรงนี้ตนจะเป็นคนดูแลเอง “คนกรุงเทพฯและคนทั่วประเทศไทยให้สนุกกับเทศกาลสงกรานต์ตนจะดูแลตรงนี้ให้เอง”
นายสุริยชัย กล่าวเสริมว่าวันนี้ได้เป็นการทำงานตามแผนเดิมคือข้อมูลที่ได้รับมาจะเน้นไปในโซน B และ โซน C ที่มีผู้ประสบภัยอยู่เน้นในเรื่องการเปิดเนื้องานที่โซน Bนั้น พบหนึ่งร่างกับอีก 1 ซึ่งในวันนี้ก็ยังคงใช้แผ่นเดิม คือการใช้เครื่องจักรใหญ่ควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินเท้าเข้าสำรวจ
ด้าน รศ.ทวิดา เผยว่าในส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ประกาศให้ทราบแล้วว่ารับจดแจ้ง ซึ่งตอนนี้ตำรวจก็ให้ความร่วมมือ โดยการรับจดแจ้งที่สำนักงานเขตเพียงที่เดียวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เหตุผลในการจดแจ้ง เพราะอาจจะทีของเสียหาย หรือมีความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บดังนั้นต้องบันทึกเป็นเลขไว้ และเจ้าของห้องที่เป็นเจ้าของอาคารชุด ซึ่งตอนนี้เราได้รับแจ้งว่ามีประมาณ 7000 กว่าเคสแล้ว สำหรับบ้านเรือนประชาชนที่มีความเสียหายมากและอยากให้ซ่อมเร็วนั้นอย่างเช่นน้ำซึม หรือประตูบวม และฝ้าหลุดออกมานั้นตอนนี้ทุกเขตได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปเก็บในเรื่องความเสียหาย จะได้ดำเนินการเลย
และการที่เราดำเนินการเร็วขนาดนี้ทำให้มีหลายห้องอยู่ไม่ทัน ก็อยากขอให้เจ้าของห้องไม่ต้องตกใจหากมาไม่ทันนัดแรก สำนักงานเขตก็จะเตรียมนัดเจ้าของห้องในวันต่อไป และอยากให้เก็บหลักฐานในกรณีที่บาดเจ็บ ควรมีใบรับรองแพทย์ ในกรณีที่มีความเสียหาย หรืออุปกรณ์ที่ประกอบอาชีพเสียหายนั้นให้เก็บภาพถ่ายเอาไว้เวลาทวนเอกสาร หรือทวนข้อเท็จจริงนั้นจะได้ไม่ช้า ซึ่งเราจะพยายามช่วยเหลือท่านเป็นส่วนๆ จะไม่รอให้ถึงวันที่ 27 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย เพราะไม่ไม่งั้นมันจะหลาย 10,000 เคส ยืนยันว่าจะเร่งทำให้เร็วที่สุด
ส่วนการเยียวยา จะเริ่มจ่ายตามกระบวนการจะเริ่มจ่ายภายใน 60 วัน นับจากวันสุดท้ายนั่นคือวันที่ 27 เมษายน แต่ด้วยความที่มีจำนวนผู้เสียหายเยอะ เราอาจจะจ่ายก้อนแรกภายใน 60 วัน แต่ผู้ที่ทำเรื่องช่วงหลัง อาจจะยืดระยะเวลาออกไปอีก แต่จะพยายามให้เสร็จให้ได้ภายใน 90 วัน
นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่าเป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เราฝ่ายกทม. คือฝ่ายเลขาที่จดบันทึกความเสียหายต่างๆให้และมีตัวเลขอยู่นั้นแต่ทุกคนจะอาจจะไม่ได้ตามอัตราตัวเลขต้องดูตามความเสียหาย เช่นรอยแตกร้าวโอกาสที่จะได้เต็มเป็นไปได้ยากไม่อยากให้คาดหวังว่าจะได้ครบ เพราะเป็นหลักเกณฑ์ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกำหนดออกมา
ทั้งนี้ทางกรุงเทพมหานครก็ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตและเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งก็ไม่ได้มีการยืนยันว่านายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าฯสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จะมาร่วม แต่ปรากฏว่า ผู้ว่าได้เดินทางมาร่วมพิธี ซึ่งได้มีการทักทายกับผู้บริหารกทม. แต่ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียดอื่น หลังจากเสร็จสิ้นก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด