รวบผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ หลบหนีนานเกือบ 2 ปี

นายวีระพล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. สั่งการให้ พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ จับกุม นายวีระพล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 309/2566 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน”

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 19 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และกองบัญชาการกองทัพไทย ได้เข้าติดตามเรือต้องสงสัยซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่กำลังลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาทางทะเลในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ของกลางกว่า 909 กิโลกรัม และควบคุมตัวผู้ต้องหาบนเรือได้ 6 ราย ซึ่งมีนายต่อลาภ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง จากการขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐาน ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายวีระพล ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายลำดับที่ 7 ในโครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญของ ป.ป.ส. ประจำปี 2568

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายวีระพล ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในย่านบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังจับกุม สอบสวนให้การรับสารภาพและจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า นายวีระพล มีหมายจับของศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ 126/2562 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ในข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” อีกด้วย นำตัวส่งบช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Total
0
Shares
Previous Article

“โฆษกดีเอสไอ” เผยคืบหน้าคดีฮั้ว สว.67 “กรณีอั้งยี่-ฟอกเงิน“

Next Article

สำนักงาน กสทช. พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล

Related Posts