“ปิดสวิตช์ Discord Monarch” ทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ออนไลน์

ปฏิบัติการ ทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ออนไลน์

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การนำของ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) และ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ได้เข้าทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ออนไลน์ขนาดใหญ่ ภายใต้ปฏิบัติการ “ปิดสวิตช์ Discord Monarch” หลังพบมีการใช้แอปพลิเคชัน Discord ในการไลฟ์สดเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กและเยาวชน พร้อมหลอกลวงผู้เข้าชม
การจับกุมผู้ต้องหาและข้อหาที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 11 ราย แบ่งเป็น:
กลุ่มผู้ต้องหา 7 ราย (ค้ามนุษย์และเกี่ยวข้องกับสื่อลามกอนาจารเด็ก)

ซึ่งถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ได้แก่

  • นายสุนันท์ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี
  • นางสาวภัทรียา (นามสมมติ) อายุ 20 ปี
  • นายนวพล (นามสมมติ) อายุ 18 ปี
  • นายยุคลธร (นามสมมติ) อายุ 31 ปี
  • นายเสฎฐวุฒิ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี
  • นายกรชนก (นามสมมติ) อายุ 20 ปี
  • นายมานะ (นามสมมติ) อายุ 68 ปี
    ข้อหาหลัก คือ ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยกระทำต่อบุคคลอายุ 15-18 ปี และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่ระบบคอมพิวเตอร์, การจัดหาเพื่อการอนาจาร, การผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก, การพรากผู้เยาว์เพื่อหากำไรหรืออนาจาร และการส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสม

ผู้ต้องหาหญิงทั้ง 4 รายถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ได้แก่:

  • นางสาวเพ็ญนภา (นามสมมติ) อายุ 20 ปี
  • นางสาวกรชวัล (นามสมมติ) อายุ 21 ปี
  • นางสาวภัคจิรา (นามสมมติ) อายุ 21 ปี
  • นางสาวนงนุช (นามสมมติ) อายุ 20 ปี
    ข้อหาหลัก คือ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและเผยแพร่วัตถุหรือสิ่งของลามก
    การเข้าตรวจค้นและของกลางที่ยึดได้
    เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้น 6 จุดในจังหวัดนครพนม, กำแพงเพชร, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และอุบลราชธานี พร้อมยึดของกลางสำคัญเป็น
  • โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง
  • คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง
  • โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง
  • แท็บเล็ต 3 เครื่อง
  • หน้าจอคอมพิวเตอร์ 1 จอ
  • สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม
  • ไฟสำหรับไลฟ์สด 4 ชุด
  • ชุดคอสเพลย์สำหรับไลฟ์สด 2 ชุด
  • อวัยวะเพศชายเทียม 3 ชิ้น

ปฏิบัติการนี้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและเยาวชน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ได้สั่งการให้ บก.ปคม. เร่งสืบสวนคดีนี้ หลังพบแอปพลิเคชัน Discord มีเซิร์ฟเวอร์ชื่อ “Monarch V2” หรือ “Monarch” ซึ่งมีการนำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปีมาไลฟ์สดในลักษณะลามกอนาจาร และมีการเรียกเก็บเงินจากผู้เข้าชม
จากการสืบสวนพบว่าเซิร์ฟเวอร์ “Monarch V2” มีสมาชิกติดตามกว่า 117,872 คน และมีการจัดระบบอย่างเป็นระเบียบ มีหมวดหมู่ต่างๆ เช่น:

  • ช่องตารางงาน: ประกาศคิวไลฟ์สดของเด็กสาว
  • ช่องประกาศสิบแปดบวก: โพสต์ภาพวาบหวิวโฆษณา
  • ช่อง NIGHTCLUB 01 (สาธารณะ): แสดงไลฟ์สดให้เด็กสาวโชว์เรือนร่าง พร้อมดีเจกระตุ้นอารมณ์ เพื่อชักจูงให้ซื้อบัตรเข้ากลุ่มลับ
  • ช่องหมวดหมู่ส่งสลิปซื้อบัตร: สมาชิกต้องโอนเงิน “ซื้อบัตรลับ” เพื่อเข้าถึงหมวดหมู่ลับ “PRIVATE NIGHTCLUB” ซึ่งมีการแสดงลามกอนาจารเต็มรูปแบบ รวมถึงการช่วยตัวเองและการมีเพศสัมพันธ์โชว์

นอกจากนี้ กลุ่มผู้กระทำผิดยังใช้กลอุบาย “ปั่นยอด TOP1” หลอกลวงสมาชิก โดยประกาศว่าผู้ที่โอนเงินสนับสนุนสูงสุดจะได้รางวัลเป็นนัดเจอและมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวที่ไลฟ์สด แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการปั่นยอดเงินให้สูงขึ้นผ่านบัญชีม้าในเครือข่าย และเงินที่โอนเข้ามาจะไม่คืนให้ ตัวอย่างเช่น มีผู้เสียหายรายหนึ่งโอนเงินไปถึง 141,456 บาท แต่ถูกบัญชีม้าโอนทับด้วยยอดที่สูงกว่า
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าหัวหน้าผู้ดูแลเซิร์ฟเวอร์มีเงินหมุนเวียนสูงถึง 2,125,478.35 บาท ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 12 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นรายได้จากการขายบัตรลับเข้าชมช่อง “PRIVATE NIGHTCLUB”
เจ้าหน้าที่ยังสามารถระบุตัวเด็กหญิงที่ไลฟ์สดในช่อง Discord ได้ 6 ราย และได้ให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์แล้ว 1 ราย โดยเด็กหญิงให้การว่าถูกชักชวนให้มาทำงานไลฟ์สด แอดมินจะหักค่าหัวคิว 50% สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี (อ้างว่าเป็น “ค่าความเสี่ยง”) และ 25% สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้กระทำผิดรู้ดีว่ากำลังแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและเยาวชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Total
0
Shares
Previous Article

ทลายแก๊งมิจฉาชีพ หลอกผู้สูงอายุติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน

Next Article

“โฆษกดีเอสไอ” เผยคืบหน้าคดีฮั้ว สว.67 “กรณีอั้งยี่-ฟอกเงิน“

Related Posts