ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ประสบความสำเร็จในการติดตามจับกุมนายวิรัตน์ฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 13 ปี ในลักษณะโทรมหญิง ซึ่งหลบหนีคดีมานานกว่า 17 ปี โดยจับกุมตัวได้ที่จังหวัดเชียงราย หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาทำงานเป็นช่างประปาในพื้นที่
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาค้างเก่าที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเพศ โดยเฉพาะคดีที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนอย่างรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้
สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคม 2549 ณ บ้านพักใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยนายวิรัตน์ฯ พร้อมพวกอีก 5 คน ได้ตั้งวงดื่มสุรา และหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาได้ชักชวนเด็กหญิงผู้เสียหายซึ่งมีอายุไม่ถึง 13 ปี มาร่วมดื่มสุราด้วย
เมื่อเด็กหญิงผู้เสียหายมีอาการมึนเมา กลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะ “โทรมหญิง” อย่างทารุณกรรม หลังจากเกิดเหตุ ผู้เสียหายพร้อมผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา โดยได้จับกุมผู้ร่วมกระทำผิดไปแล้วบางส่วน เหลือเพียงนายวิรัตน์ฯ ที่หลบหนีออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่เกิดเรื่อง กินเวลานานกว่า 17 ปี


ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ชานนท์ รัตนประทีป สว.กก.4 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายวิรัตน์ฯ ได้หลบหนีมาทำงานเป็นช่างประปาอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้บนถนนหน้าบ้านพักของผู้ต้องหา
นายวิรัตน์ฯ ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 477/2552 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2552 ในข้อหา “ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง อายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง, ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร และร่วมกันพาเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขู่ด้วยประการอื่นใด”
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวิรัตน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป