วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงผลการกวาดล้างเครือข่ายแพทย์หญิงชื่อดัง ที่สวมรอยชื่อผู้ป่วยที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 370 ราย เพื่อสั่งซื้อ “ยาเสียสาว” และนำไปจำหน่ายนอกระบบโดยผิดวัตถุประสงค์ พบมูลค่าการสั่งซื้อยาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดถึง 15 ล้านบาทในปีล่าสุด
พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มจากการที่ ผบ.ตร. ได้รับการประสานจาก อย. เมื่อเดือนกันยายน 2567 ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 จึงสั่งการให้ ปส. สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 5 ราย นำโดย แพทย์หญิงยศ พ.ต.อ. สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ดูแลสถานที่เก็บยาและจัดส่งยาอีก 2 ราย รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์กว่า 170,400 เม็ด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” และ “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ”
ขยายผลจากผู้ค้ารายย่อย สู่แพทย์หญิงตัวการใหญ่
พล.ต.ท. สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนพฤติการณ์การกระทำผิดอย่างละเอียด และตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งสอดคล้องกันอย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2567 เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่นำ “ยาเสียสาว” ออกไปจำหน่ายในพื้นที่ จ.นครปฐม ได้ 3 ราย ซึ่งนำไปสู่การขยายผลออกหมายจับแพทย์หญิงและพวกร่วมกันได้ในที่สุด
จากการสอบปากคำ แพทย์หญิงคนดังกล่าวให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พล.ต.ท. สันติ ยอมรับว่าอาจมีแพทย์รายอื่นร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ เบื้องต้นพบว่ายาได้กระจายไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตรวจสอบการกระจายยาไปทั่วประเทศ
อย. ชี้เป้าความผิดปกติ: สั่งซื้อยาผ่านคลินิก 12 แห่ง มูลค่า 15 ล้านบาท
นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อย. ตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่กลางปี 2567 และตรวจสอบย้อนหลังพบว่า แพทย์หญิงรายนี้เริ่มสั่งซื้อยาผ่าน 5 คลินิก ในปี 2565 มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท จากนั้นเพิ่มเป็น 7 คลินิก มูลค่า 4 ล้านบาทในปี 2566 และ 11 คลินิก มูลค่า 11 ล้านบาทในปี 2567 จนกระทั่งปี 2568 มีคลินิกรวม 12 แห่ง มูลค่าการสั่งซื้อยาพุ่งสูงกว่า 15 ล้านบาท โดยแพทย์หญิงใช้ชื่อผู้ป่วยที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 370 ราย ในการสั่งซื้อยา ซึ่งถือเป็นปริมาณที่สูงกว่าโรงพยาบาลทั่วไป และมีเพียงชื่อของแพทย์หญิงคนนี้เป็นผู้สั่งจ่ายเงินเพียงคนเดียวสำหรับทั้ง 12 คลินิก
ในส่วนของการดำเนินการทางวินัยกับแพทย์หญิงรายนี้ ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังแพทยสภาเพื่อพิจารณา ส่วนทางตำรวจได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และมีรายงานล่าสุดว่า โรงพยาบาลตำรวจได้มีคำสั่งให้แพทย์หญิงคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน ระหว่างการสอบสวน