มท.1 สั่งลุย จ่อปิด 5 ปี
ภายใต้การสั่งการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้เปิดปฏิบัติการ “ดับซ่า กำแพงแสน” บุกเข้าจับกุม สถานบริการ Radzone กำแพงแสน ซึ่งตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังในอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการร้องเรียนของผู้ปกครองนักศึกษา ที่กังวลว่าร้าน Radzone ปล่อยให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปมั่วสุมอย่างโจ่งแจ้ง มีการใช้ยาเสพติด และยังอ้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การสนับสนุน หลังการสืบสวนด้วยสายลับ เจ้าหน้าที่พบว่าร้านไม่มีการตรวจสอบบัตรประชาชน และปล่อยให้มีการใช้ยาเสพติด รวมถึงการพกพาอาวุธปืนภายในร้านจริง
ขณะเข้าจับกุม พบนักเที่ยวกว่า 120 คน ภายในผับ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและพบความผิดหลายประการ
จำหน่ายสุราผิดกฎหมาย: มีการจำหน่ายสุราให้เด็กและบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงจำหน่ายเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้กล่าวย้ำถึงนโยบายจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องการขจัดอบายมุขเพื่อสร้างความสงบสุขให้แก่สังคม โดยเน้นย้ำความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ และชี้แจงว่าสถานบริการไม่ควรมีเด็กเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีการใช้สารเสพติด
หลังจากนี้ ผู้ประกอบการจะถูกแจ้งข้อหาหนักหลายข้อหา รวมถึงการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และกรมการปกครองเตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมพิจารณาสั่ง ปิดสถานบริการ Radzone กำแพงแสน เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 อย่างเคร่งครัด
กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสถานบริการหรือแหล่งอบายมุขที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต: เป็นผับเถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ
ปล่อยปละละเลยเยาวชน: พบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวนมาก หนึ่งในนั้นอายุเพียง 17 ปี ซึ่งตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะเป็นสีม่วง
ยาเสพติดและอาวุธปืน: พบยาเสพติดประเภท ยาอีและยาเค กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น และพบ อาวุธปืนบรรจุกระสุนพร้อมใช้งาน ที่นักเที่ยวพกพาเข้ามา