ภายใต้การนำของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นทั่วประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเน้นการควบคุมพื้นที่ชายแดนและสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ส่งผลให้ปฏิบัติการในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (1 เมษายน 2568 – ปัจจุบัน) ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ
ผบ.ตร. เปิดเผยผลการดำเนินงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางยาเสพติดได้ในปริมาณมหาศาล ประกอบด้วย ยาบ้ากว่า 29 ล้านเม็ด, ไอซ์และคีตามีนรวม 4,443 กิโลกรัม, และเฮโรอีน 126 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังสามารถ ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการค้ายาเสพติดได้กว่า 1,900 ล้านบาท
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธการ SEAL – STOP – SAFE ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยเน้นย้ำถึงปัญหายาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินยุทธการเชิงรุกในการสกัดกั้นและขยายผลการปราบปรามยาเสพติด




โดยมีคดีสำคัญหลายกรณี อาทิ:
การสกัดกั้นในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ: 10 คดี จับกุมผู้ต้องหา 17 ราย ยึดยาบ้ากว่า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 70 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 2,476 กิโลกรัม
การสกัดกั้นจากชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: 2 คดี จับกุมผู้ต้องหา 8 ราย ยึดไอซ์ 697 กิโลกรัม
การสกัดกั้นในพื้นที่ภาคใต้ (ก่อนลำเลียงไปยังประเทศที่ 3): 4 คดี จับกุมผู้ต้องหา 9 ราย ยึดไอซ์ 1,132 กิโลกรัม
การสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ (ปลายทาง ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และกินี) ภายใต้โครงการ AITF: 15 คดี ยึดไอซ์ 137.68 กิโลกรัม และเฮโรอีน 57.26 กิโลกรัม
ผบ.ตร. เน้นย้ำว่า หลังรัฐบาลได้เปิดปฏิบัติการ SEAL-STOP-SAFE ตำรวจได้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นจับกุมในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทุกหน่วยเปิดปฏิบัติการบุกจับเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญ และสกัดเส้นทางลำเลียงอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ทำให้มีผลการจับกุมและยึดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในทุกมิติอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และผลการปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568