“ดีเอสไอ” เปิดปฏิบัติการทลายขบวนการหลอกลวงข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์ปลอมกว่า 2,000 เว็บ หลอกเหยื่อทั่วโลกกว่า 15 ประเทศ สูญเงินกว่า 2 พันล้านบาท
วันนี้(30 พ.ค. 68) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจค้นและจับกุมแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกลวงให้ซื้อสินค้าและบริการที่ไม่มีอยู่จริง สร้างความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งมีการหลอกลวงให้ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ถุงมือยาง ต่อมาทางดีเอสไอได้มีการตั้งเรื่องและสืบสวนพบว่ามีกลุ่มผู้กระทําความผิดซึ่งเป็นชาวต่างชาติและคนไทย โดยชาวต่างชาติได้เข้ามาพํานักอยู่ในประเทศไทยและใช้เงื่อนไขต่างๆเพื่อให้สามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ โดยอ้างว่าเป็นครูสอนภาษาต่างๆหรือจดทะเบียนกับคนไทย จากนั้นได้มีการเปิดบริษัทขึ้นมากว่า 100 บริษัท เพื่อหลอกขายสินค้าและเปิดบัญชีม้ากว่า 500 บัญชี รวมถึงมีการเปิดเว็บไซต์ที่ใช้ในการหลอกลวงอีกกว่า 2,000 เว็บไซต์ อาทิ หลอกให้รัก หลอกขายสินค้า ปลอมตัวเป็นผู้ค้ารับโอนเงินและอื่นๆอีกหลายรูปแบบ
ภายหลังจากที่สืบสวนจนพบการกระทําความผิดชัดเจนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหารวม 24 หมายจับ จึงได้เปิด Operation Shadow Bay ลงพื้นที่ตรวจค้น 11 จุด 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม กระบี่ นนทบุรี กาญจนบุรี สมุทรปราการ จันทบุรี และ สมุทรสาคร ซึ่งผลปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหารวม 9 ราย แบ่งเป็น คนไทย 6 ราย ชาวแคเมอรูน 2 ราย และ ชาวไนจีเรีย 1 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามตัวมาดําเนินคดี ซึ่งคดีนี้สร้างความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีชาวต่างชาติได้รับความเสียหายจํานวน 15 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ
เบื้องต้นจากการตรวจค้นทั้ง 11 จุด สามารถตรวจยึดของกลางหลายรายการ อาทิ ทองแดง 15 ตัน โทรศัพท์ 18 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 13 เครื่อง ซีพียู USB Hardware Wallet 2 ตัว ธนบัตรไทยและดอลลาร์ และเอกสารอื่นๆ หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้เพื่อขยายผลต่อ เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้กระทําผิดที่อยู่ต่างประเทศ
