ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนางสาวจตุประภาฯ อายุ 33 ปี สมาชิกคนสำคัญของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “สว.ซัว” ได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ หลังจากหลบหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน
การจับกุมครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. และทีมงานชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. นางสาวจตุประภาฯ ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์, สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน”
เบื้องหลังการจับกุม: ปฏิบัติการเปิดโปงเครือข่าย “สารวัตรซัว”
คดีนี้สืบเนื่องมาจากการเปิดโปงเครือข่ายพนันออนไลน์ “สารวัตรซัว” ในปี 2566 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับบุคคลในวงการตำรวจและบริษัทเอกชนชื่อดังในเครือ “เป็นต่อ กรุ๊ป” กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามใช้เวลาสืบสวนกว่า 3 เดือน เพื่อตีแผ่ขบวนการฟอกเงินขนาดใหญ่นี้
จากปฏิบัติการเชิงรุก ตำรวจได้วางแผนเข้าจับกุม 4 ระลอก สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 57 ราย จาก 64 หมายจับ และ ยึดทรัพย์สินได้มูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท แม้จะมีการจับกุมครั้งใหญ่ แต่ก็ยังมีผู้ต้องหาบางส่วนหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ และถูกออกหมายแดงเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
บทบาทของนางสาวจตุประภาฯ ในขบวนการฟอกเงิน
จากการสืบสวนพบว่า นางสาวจตุประภาฯ เป็นพนักงานของบริษัทในเครือ “เป็นต่อ กรุ๊ป” และมีบทบาทเป็น คนกลางในขบวนการฟอกเงิน จากเว็บไซต์พนันออนไลน์ เช่น sbobet, ibcbet, fifa55 โดยใช้บัญชีธนาคารส่วนตัวรับโอนเงินจากบัญชีหน้าเว็บพนัน ก่อนจะโอนเงินต่อไปยังบุคคลในเครือข่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่ามียอดเงินหมุนเวียนผ่านบัญชีของเธอรวม หลายล้านบาท


การจับกุมและข้อกล่าวหา
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้เข้าจับกุม นางสาวจตุประภาฯ ขณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากหลบหนีไปพำนักอยู่ในประเทศเวียดนาม โดยทางการไทยได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามผ่านหมายแดงอินเตอร์โพลแล้ว
อย่างไรก็ตาม นางสาวจตุประภาฯ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าเคยเป็นพนักงานของบริษัท “เป็นต่อ กรุ๊ป” จริง แต่ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์แต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป