เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พ.ค. พ.ต.อ.พีรรัฐ โยมา ผกก.สน.สุวินทวงศ์
เปิดเผยถึงคดีฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรีรวบแก๊งค้ายา เสพติด“บุญรักษา” มีผู้สมัคร สท.เมืองลัดหลวง จ.สมุทรปราการ พรรคประชาชนร่วมขบวนการพร้อมยาบ้าเกือบ 5 แสนเม็ด ยาไอซ์ – คีตามีน 2 กก.นำส่งดำเนินคดีที่ สน.นิมิตร ว่า รายละเอียดการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน นายอภิวัฒน์ บุญเหลือ หรือฟลุ๊ค อายุ 27 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา
นายภานุพงษ์ แก้วรัศมี หรือแบงค์ อายุ 36 ปี ผู้สมัคร สมาชิกเทศบาล (สท.) เมืองลัดหลวง เขต 1 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พรรคประชาชน จะมีการเลือกตั้งวันที่ 11 พ.ค.นี้ นายศรายุท ลือขจร หรือนัด อายุ 34 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ
และนายสุธี อ่อนศรี หรือก้อง อายุ 33 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ
ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะเก็บไว้เป็นข้อมูลขยายผลหาตัวการใหญ่ ผู้ต้องหาได้ขอใช้สิทธิ์ให้ทนายความร่วมสอบปากคำ หลังสอบปากคำจะควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญามีนบุรีฝากขังผัดแรกทันที ท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว
ขณะที่บรรยากาศที่ สน.นิมิตรใหม่ มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าว โดยสิบเวรหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมามีญาติของผู้ต้องหา ติดต่อขอเยี่ยม เอาข้าวเอาน้ำมาให้ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน กินอิ่มนอนหลับไม่ได้เรียกร้องขออะไรเป็นพิเศษ
ต่อมาเวลา 11.10 น.วันที่ 8 พ.ค. พ.ต.ท.หญิงดรุณี ประเสริฐ รองผกก(สอบสวน) สน.นิมิตรใหม่ เบิกนายภานุพงษ์ หรือแบงค์ ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.นิมิตรใหม่เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ หลังผู้ต้องหาขอใช้สิทธิ์ให้ทนายความร่วมสอบปากคำด้วย ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวออกมา ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่ถูกจับพร้อมกับยาเสพติด โดยนายแบงค์ทำทีเป็นไม่เข้าใจคำถาม ก่อนจะหันมาถามย้ำกับผู้สื่อข่าว ว่า หมายถึงอะไร ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำว่า ค้ายาเสพติดมานานหรือยัง แต่เจ้าตัวกลับไม่ตอบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ลงสมัคร สท.ในนามพรรคประชาชน เจ้าตัวอ้างว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจที่จะลงสมัคร แต่เพราะมีญาติที่รู้จักกันชักชวนให้ลงสมัคร และยืนยันว่าการลงสมัคร สท.ในนามพรรคประชาชน ไม่ได้เป็นการทำเพื่อบังหน้าขบวนการค้ายาเสพติด พร้อมฝากขอโทษพรรคประชาชน
ทั้งนี้มีรายงานว่า จากการ ตรวจสอบ ตามสื่อโซเชียลมีเดียที่ ที่ประชาสัมพันธ์การลงสมัครของนายภาณุพงษ์ จะเห็นว่า สื่อโซเชียลมีเดีย มีคำว่าบุญรักษาอยู่ด้วย
สืบเนื่องจากพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผกก.สน.มีนบุรี และพ.ต.ท.อรรณพ สังข์เสน รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง สว.สส.สน.มีนบุรี นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี จับกุมนายอภิวัฒน์ ได้ที่บ้านพักเลขที่ 29/785 แยก 15 หมู่บ้าน เคซี รามอินทรา 1 ซอยหทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. และจับกุมนายภานุพงษ์ นายศรายุท นายสุธี ได้ที่ลานจอดรถ ภายในซอยหทัยราษฎร์ 39 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. พร้อมของกลาง ยาบ้า 480,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กก. และคีตามีน 1 กก.
ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ติดตามจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้มานานหลายเดือน พบเบาะแสว่านายอภิวัฒน์ทำหน้าที่เก็บรักษายาเสพติดและเป็นหัวจ่ายคอยกระจายยาบ้าหลักล้านเม็ด และยาไอซ์-คีตามีนหลายกิโลกรัม จากการเฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องพบว่านายอภิวัฒน์จะนำรถยนต์ไปรับยาเสพติดมาครั้งละหลายกระสอบ และใช้รถจักรยานยนต์นำยาเสพติดไปวางตามซอยเปลี่ยวอยู่เป็นประจำ กระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่านายอภิวัฒน์ได้ไปรับยาบ้ามาจำนวนหลายกระสอบ วางแผนนำกำลังเข้าจับกุมที่บ้านพัก ขณะจับกุมนายอภิวัฒน์และขยายผลอยู่นั้น ได้มีผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “Henry” เป็นหัวหน้าทีมของนายอภิวัฒน์ โทรมาสั่งการนายอภิวัฒน์ว่าจะมีการเปลี่ยนสถานที่เก็บรักษายาเสพติด โดยจะให้ผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “Light of day” ประสานงานไปรับยาเสพติดทั้งหมดจาก นายอภิวัฒน์
ต่อมาเช้ามืดวันที่ 6 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่วางแผนจับกุมสมาชิกแก๊งที่จะเดินทางมารับยาเสพติดไปเก็บรักษาแทน พบรถยนต์ 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง มีนายสุธีเป็นคนขับนำทางและประสานงาน และรถกระบะตู้ทึบมีนายภานุพงษ์เป็นคนขับ และนายศรายุทฯ อายุ 34 ปี นั่งมาด้วย ทั้ง 2 คน ทำหน้าที่ขนยาเสพติดขึ้นรถกระบะตู้ทึบ มีนายสุธีคอยสังเกตการณ์
นำกำลังเข้าจับกุมทั้ง 3 คน ขณะเข้าจับกุมนายสุธีพยายามขับรถหลบหนีและจะพุ่งชนเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดอันตรายตัดสินใจทุบกระจกรถยับยั้งนายสุธีได้สำเร็จ
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การว่าชายที่มีฉายาว่า “บุญรักษา” ว่าจ้างให้พวกตนขนส่งยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้จะได้รับค่าจ้าง คิดตามจำนวนยานพาหนะที่ใช้ทำงาน คันละ 10,000 บาท นายภานุพงษ์ 5,000 บาท นายศรายุท 5,000 บาท ส่วนนายสุธีฯ 10,000 บาท
ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นภัยมั่นคงต่อรัฐ และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ก่อนควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สน.นิมิตรใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 12.30 เจ้าหน้าที่ทยอยนำผู้ต้องหาอีก3คนนายอภิวัฒน์ นายศรายุท และนายสุธี ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อสอบสวนร่วมกับทนายความ
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่าไม่รู้จักผู้ต้องหาที่ถูกจับมาด้วยกันเป็นการส่วนตัว แต่ร่วมทำงานส่งยาด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว ส่วนผู้ต้องหาอีก2คนปฏิเสธตอบคำถาม
จากนั้นเวลา 15.40 น. ภายหลังการสอบสวนเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาทั้ง4คน ขึ้นรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาไปส่งผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ทันที
ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวออกจากห้องควบคุมขัง ได้มีญาติของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มากอดให้กำลังใจ โดยก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถนายแบงค์ได้กล่าวว่า ตนยอมรับว่าได้ค้ายาเสพติดจริง แต่พอถามว่าทำงานแล้วหรือยัง นายแบงค์ไม่ยอมตอบคำถาม ถามต่อว่า คำว่า บุญรักษา ในโปสเตอร์หาเสียง มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการบุญรักษาที่ค้าเสพติดอย่างไร นายแบงค์บอกว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเป็นเพียงชื่อที่เพื่อนให้มาเท่านั้น
