“สายไหมต้องรอด” นําตํารวจมีนบุรี ช่วยยายวัย 60 ปี ถูกลูกป่วยจิตทําร้ายไล่นอนนอกห้อง อ้างแม่จะแย่งผัวที่เป็น “รูปปั้นพญานาค”
วันนี้(4 พ.ค. 68) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นําเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.มีนบุรี บุกเข้าช่วยเหลือ นางสุมาลี อายุ 60 ปี ที่ถูก น.ส.สุธิดา หรือ กุ้ง อายุ 38 ปี ลูกสาวมีอาการป่วยจิตรเวช ทำร้ายร่างกายแม่ ล็อคห้องไม่ให้เข้าจนต้องไปตามนอนตามทางเดินหรือริมถนนจนชาวบ้านสงสารจึงแจ้งมายังเพจสายไหมต้องรอด
เมื่อไปถึงพบว่า นางสุมาลี ผู้เป็นแม่ นอนหลับอยู่บริเวณบบันไดทางขึ้นห้องพัก จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า น.ส.กุ้ง ลูกสาวล็อคประตูไม่ให้เข้าห้องทําให้แม่ซึ่งกลับมาจากทํางานต้องลงมานอนบริเวณบันไดตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง จากนั้นนายเอกภพพร้อมเจ้าหน้าที่ตํารวจได้พาแม่ขึ้นไปเคาะห้องก็พบว่า น.ส.กุ้ง อยู่ภายในห้องและได้เปิดคลิปขณะทําร้ายร่างกายแม้เมื่อวานก่อนให้ดู ซึ่ง น.ส.กุ้ง บอกว่าทําไปเพราะเกลียดแม่ อ้างว่าแม่ทําของใส่แฟนของเธอที่เป็น “รูปปั้นพญานาค” ชื่อสุวรรณนคราช
เมื่อถามว่า น.ส.กุ้ง เคยไปรักษาอาการทางจิตมาก่อนหรือไม่ เจ้าตัวยอมรับว่าเคยรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.สิงห์บุรี แต่อ้างว่าหมอบอกหายแล้วให้หยุดกินยาและให้กลับมาฉีดยาเอง เมื่อถามว่าหากเจ้าหน้าที่จะพาตัวไปรักษายินดีหรือไม่ น.ส.กุ้ง บอกว่าตนเองไม่ไปเพราะไม่ได้ป่วยพร้อมบอกว่าหลังจากนี้จะไม่ทําร้ายแม่อีกหากแยกกันอยู่คนละห้องและไม่ต้องมาเจอกันอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้คุมตัว น.ส.กุ้ง ไปยัง สน.มีนบุรี
ด้าน นางสุมาลี แม่ของ น.ส.กุ้ง เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกอยู่กับญาติที่ จ.สิงห์บุรี และมีอาการป่วยจิตไล่ทําร้ายญาติจนแม่ต้องรับกลับมาอยู่ด้วย ช่วงแรกที่มาอยู่ลูกทํางานเป็นโคโยตี้และกินยาลดความอ้วน ผ่านไปสักระยะเพื่อนบ้านเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกสาวตนผิดปกติแนะนําให้พาไปรักษา จึงเป็นเหตุทําให้ทะเลาะกันถึงขั้นถูกกรรไกรแทงที่หลังต้องเย็บหลายเข็ม อย่างไรก็ตามตนเองไม่เคยโกธรลูก แต่อยากให้พาไปรักษาเพื่อให้ลูกหายเป็นปกติและกลับมาอยู่ด้วยกัน
ด้านนายเอกภพ ระบุว่า ได้ประสานไปยังนายกองตรี ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ประสานทางโรงพยาบาลศรีธัญญา หรือ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในการเอาตัว น.ส.กุ้ง ไปรักษา แต่เบื้องต้นตำรวจได้คุมตัวไปพูดคุยและไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดก่อนส่งตัวไปรักษาตามขั้นตอน