ชาวปากีสถานแอบทำบัตรประชาชน สวมชื่อคนไทยฝังรกรากอยู่ในไทยมานานหลายสิบปี

MR.ZESHAN สัญชาติปากีสถาน อายุ 41 ปี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดชสาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์, พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร และ พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.


เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ชวรินทร์
แหล่งสท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม MR.ZESHAN สัญชาติปากีสถาน อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2463/2568 ลง 22 เมษายน 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ใช้หรือแสดงบัตรประจำตัวประชาชนที่ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่, เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติทําใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม, ปลอมหนังสือเดินทาง และใช้หนังสือเดินทางปลอม”
สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่งแขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลางทราบว่า MR.ZESHAN ได้ทำการสวมตัวทำบัตรประชาชนไทยในชื่อนายสุพจน์ฯ จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนพบข้อมูลว่า ความจริงแล้ว บุคคลไทยในชื่อ สุพจน์ฯ นั้น เป็นข้อมูลในฐานข้อมูลทะเบียนบัตรประชาชนคนไทยที่มีการแจ้งการเกิดจริง แต่ได้เสียชีวิตไปแล้วหลังจากการเกิดไม่นาน แต่บิดามารดาของ สุพจน์ฯ ไม่ได้ไปแจ้งการเสียชีวิตต่อที่ว่าการอำเภอ ซึ่งในขณะที่ สุพจน์ฯ เสียชีวิตนั้น เป็นอำเภอที่ห่างไกล ในต่างจังหวัด ซึ่งน่าเชื่อว่า เป็นเหตุให้เมื่อ พ.ศ.2557 ผู้ที่ทราบข้อมูลที่ยังมีชื่อบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่มีการแจ้งการเสียชีวิต นำมาสู่ถึงการพา MR.ZESHAN สัญชาติปากีสถาน เข้ามาทำการสวมในชื่อของ สุพจน์ฯ ดังกล่าว
ต่อมาสืบสวนพบว่า เมื่อ MR.ZESHAN สัญชาติปากีสถาน เมื่อได้บัตรประจำตัวประชาชนไทยแล้ว MR.ZESHAN ได้นำบัตรประชาชนไทยในชื่อ นายสุพจน์ฯ ไปใช้ทำหนังสือเดินทาง แล้วปลอม ลายมือชื่อ เดินทางเข้าออกประเทศไทย จำนวนร่วม 100 ครั้ง


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR.ZESHAN สัญชาติปากีสถาน อายุ 41 ปี ตามหมายจับ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2463/2568 ลง 22 เม.ย.68 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ใช้หรือแสดงบัตรประจำตัวประชาชนที่ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่, เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ ทําใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทําการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม, ปลอมหนังสือเดินทาง และใช้หนังสือเดินทางปลอม”
ซึ่งภายหลังจากจับกุม MR.ZESHAN แล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามจะได้สืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในการกระทำผิดในครั้งเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา
เตือนภัย การเป็นตัวการหรือมีส่วนร่วมในการนำบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย มาแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อให้ได้มาซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนไทยนั้น ถือเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐมีอัตราโทษสูง

Total
0
Shares
Previous Article

ไฟไหม้บ้านไม่มีเลขที่ เสียหายทั้งหลัง คาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

Next Article

สาวนักธุรกิจแจ้งความถูก รองคณะบดี คณะนิติศาสตร์ ม.ดัง หลอกลงทุนเปิดบริษัทกฎหมายเสียหายหลายล้าน

Related Posts