ท่าวังผาเดือด! สามีหึงหวงภรรยาใช้อาวุธปืนยิงภรรยากลางอกดับคาร้านลาบ

ร้านลาบเดือด

เมื่อเวลา 10.16 น.  ของวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธนกฤต พลศิลา พนักงานสอบสวน สภ.ท่าวังผา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ว่า เกิดเหตุสามียิงภรรยาเสียชีวิตภายในร้านลาบเมืองแพร่ บ้านหมู่ 6 ตำบลและอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

นางสาวพัชรี พิชวงค์

หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สุริยา ขุนโต ผู้กำกับการ สภ.ท่าวังผา พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลท่าวังผา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพชรเกษม เขตท่าวังผา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

สุรศักดิ์ ชาวยอง

พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นางสาวพัชรี พิชวงค์ หรือแนน อายุ 31 ปี  ลูกจ้างร้านลาบ ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าถังน้ำแข็งภายในร้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณหน้าอก

ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรศักดิ์ ชาวยอง หรือขวัญ อายุ 34 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางบ้านก๋ง ตำบลยม ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าวังผา อยู่ระหว่างติดตามไล่ล่า โดยได้ประสาน สภ.ปัว และ สภ.อวน เข้าสกัดจับตามเส้นทางหลบหนี

สอบสวนเบื้องต้น พบว่า วันเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ ได้มาที่ร้านลาบ ที่เกิดเหตุ เพื่อขอคืนดีและกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ถูก นางสาวพัชรี ปฏิเสธ พร้อมกล่าวว่า จะไม่ยอดให้ถูกทำร้ายอีก จากนั้น คนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที ก่อนหลบหนีไป

จากการตรวจสอบพบว่า  4 วันก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ ได้ส่งภาพปืนลูกซองสั้นพร้อมกระสุน 3 นัด ไปข่มขู่พี่สาวของผู้เสียชีวิต ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ระบุข้อความว่า “หากไม่กลับจะฆ่าให้ตายยกครัว” และเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ผู้ตาย เคยโพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง พร้อมภาพบาดแผลทั่วร่าง

ขณะที่แม่ของผู้ตาย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาลูกสาวถูกสามี ซ้อมทำร้ายไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเวลาเมาสุรา ตนเคยพยายามให้ทั้งคู่แยกกันอยู่ แต่ฝ่ายชายไม่พอใจ และข่มขู่หลายครั้ง ยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้เป็นเมียน้อยใครอย่างที่ผู้ก่อเหตุโพสต์กล่าวหา แต่ทำงานเลี้ยงลูก และหาเงินส่งเสียครอบครัวด้วยตนเอง ขณะที่ฝ่ายชาย ไม่เคยช่วยดูแลลูกแม้แต่น้อย

ด้าน พ่อของผู้ตาย ก็ยืนยันว่า หากนายสุรศักดิ์ ไม่เมาสุรา ก็เป็นคนปกติ แต่หากเมาขึ้นมาจะคุมสติไม่อยู่ เคยทำร้ายร่างกายพ่อถึง 3 ครั้ง ซึ่งพ่อก็หนักใจ

พ.ต.อ.สุริยา เปิดเผยว่า เบื้องตำรวจได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด โดยมีการติดต่อกันเบื้องต้น และผู้ต้องหารับปากว่าจะมามอบตัวในช่วงบ่าย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เข้ามอบตัว ตำรวจใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ตำรวจน่านนับสิบนาย ได้ออกเร่งไล่ล่าคนร้าย โดยกระจ่ายกำลังไปตามร้านสุรา และตามร้านสะดวกซื้อ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเบาะแสของนายสุรศักดิ์ ให้ตำรวจทันที เพื่อป้องกันเหตุร้ายเพิ่มเติม และนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

Total
0
Shares
Previous Article

นักธุรกิจหนุ่ม รอชี้ตัวอดีตนายตำรวจหลอกลวงให้ลงทุนรับงานโครงการก่อสร้างท่อประปาโดยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

Next Article

รภ.อุดร ส่งเสริมนวัตกรรมสู่การยกระดับ เศรษฐกิจฐานราก สร้างองค์ความรู้สู่ชุมชน

Related Posts