วันนี้(2 มิ.ย. 68) แม่ของ นายกุลโรจน์ อายุ 15 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกชายถูกตํารวจขับรถยนต์พุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนจนเสียชีวิตพร้อมเพื่อน 2 ศพ ผ่านมานานกว่า 8 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า
โดยแม่ เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกกําลังจะไปแข่งกีฬาที่โรงเรียนระหว่างทางถูกรถยนต์คู่กรณีพุ่งออกมาจากซอยชนเข้ากับรถจักยานยนต์ของลูกชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสส่วนเพื่อนของลูกชายเสียชีวิตคาที่ 1 คน ซึ่งตนทราบเรื่องจากพลเมืองดี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้เจอกับคู่กรณีเขาอ้างว่ามองไม่เห็น
หลังเกิดเหตุลูกชายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 6 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งทางคู่กรณีได้ช่วยเหลือเบื้องต้น 10,000 หลังเสียชีวิตให้มาเพิ่มอีก 12,000 บาท เป็นค่าทําศพรวมเป็นเงินจํานวน 22,000 บาท จากนั้นคู่กรณีมีการขอไกล่เกลี้ยเสนอเงิน 100,000 บาท แต่ตนไม่รับและมีการเสนอครั้งที่ 2 จํานวน 300,000 บาท เป็นเงินสด 100,000 บาท ที่เหลือผ่อนจ่ายเดือนละ 2,500 บาท ซึ่งตนก็ไม่รับข้อเสนอดังกล่าวจนกระทั่งผ่านมา 8 เดือน คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งทราบจากทางอัยการว่าทางคู่กรณีได้ยื่นคําร้องขอความเป็นธรรมและขอเลื่อนนัดออกไป 3 ครั้ง คาดว่าจึงทําให้คดีเกิดความล่าช้า
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงคู่กรณีหรือไม่ ทางแม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอให้เขาได้รับโทษทางกฎหมาย ส่วนเรื่องเงินตนเองไม่ได้ต้องการเพราะเทียบไม่ได้กับชีวิตลูกชายที่เสียไป ซึ่งลูกชายเรียนดีและเป็นนักกีฬาจังหวัดมีความฝันอยากที่จะเป็นหมอฟัน ซึ่งแม่กล่าวทั้งนําตาด้วยว่า “คิดถึงลูกมาก แม่นอนกอดเสื้อหนูทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง แม่จะทวงความยุติธรรมให้หนู”
ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า จุดเกิดเหตุเป็นเขตชุดชนมีการตีเส้นลักษณะเป็นเกาะกลางถนน หากออกจากซอยไม่สามารถขับตรงรวมถึงไม่สามารถกลับรถบริเวณจุดดังกล่าวได้ ซึ่งทางคู่กรณีคงปฏิเสธอะไรไม่ได้ ส่วนตัวเขาใจว่าเงินเดือนตํารวจไม่ได้มากแต่การจะช่วยเหลือด้วยการผ่อนเดือนละ 2,500 บาท นั้น อยากให้ลองคิดกลับกันดูว่าหากเป็นลูกคุณที่ถูกชนจะทําอย่างไร
