รวบหนุ่มฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์

นายศุภากร หรือ ตี๋ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จับกุมนายศุภากร หรือ ตี๋ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่ หลังพบพฤติการณ์รับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล USDT นอกระบบให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนเทรดคริปโทเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มปลอมชื่อ [ลิงค์ที่น่าสงสัยถูกลบ] ทำให้ได้รับความเสียหายรวม 1.8 ล้านบาท จากการสืบสวนพบว่าเงินที่ได้จากการฉ้อโกงถูกโอนไปยังบัญชีม้าหลายบัญชี และมีการฟอกเงินในหลายรูปแบบ รวมถึงการนำเงินไปซื้อคริปโทเคอร์เรนซีสกุล USDT เถื่อนกับนายศุภากรฯ กว่า 30 ล้านบาท โดยนายศุภากรฯ จะโอน USDT ไปยังกระเป๋าเงินของ “บอสจีน”

จากการตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโทเคอร์เรนซีของนายศุภากรฯ พบว่ามียอดเงินหมุนเวียนจากการขาย USDT เถื่อนให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์พนันออนไลน์รวมกว่า 300 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา นำไปสู่การจับกุมนายศุภากรฯ ได้ที่บริเวณอาคารแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
นายศุภากรฯ ถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่”
แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าเงินที่นำมาซื้อ USDT เป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายศุภากรฯ ย่อมรู้หรือควรจะรู้ เนื่องจากมีการแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมากในทุกวัน และมีการใช้บัญชีหลายบัญชีในการโอนเงินมาซื้อเหรียญ
CIB เตือนภัยประชาชน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีนอกแพลตฟอร์ม และบุคคลที่รู้จักผ่านโซเชียลมีเดีย โดยมีข้อควรระวังดังนี้:

ระมัดระวังบุคคลที่รู้จักผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม เนื่องจากอาจเป็นตัวตนปลอมที่เข้ามาเพื่อชวนคุยให้ตายใจและหลอกลวงให้ลงทุน โดยมักจะชวนเข้ากลุ่มไลน์ที่มีหน้าม้าจำนวนมาก และหน้าม้าจะส่งสลิปปลอมเข้ามาในกลุ่มเพื่ออ้างว่าได้กำไรดี ได้เงินจริง จากนั้นจะดึงเข้ากลุ่ม VIP เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุน ซึ่งจะหลอกให้ได้เงินในช่วงแรก ๆ หลักพัน หลักหมื่น หรือบางครั้งอาจถึงหลักแสน จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนจำนวนมาก หลังจากนั้นจะเริ่มมีข้ออ้างต่าง ๆ ที่ไม่สามารถถอนเงินได้ เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มขึ้น เช่น ต้องโอนเงินเพื่อจะให้ถอนเงินที่โชว์ในแอปปลอมได้ หรือต้องโอนเงินเพื่อปลดล็อกยอดเงินในแอปปลอม
หากคุณเคยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงลักษณะนี้ หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ สามารถแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้อื่น

ไม่ควรซื้อ-ขาย คริปโทเคอร์เรนซีนอกแพลตฟอร์มกับคนที่ไม่รู้จัก และไม่รู้แหล่งที่มาของเงิน เพราะอาจตกเป็นผู้ต้องหาในขบวนการฟอกเงินให้กับมิจฉาชีพและอาชญากร ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกยึดทรัพย์

Total
0
Shares
Previous Article

กรมการปกครองบุกจับร้านดัดแปลงปืนในกทม.และสมุทรสาคร

Next Article

ผบ.ตร. ลุยปราบยาเสพติด 2 เดือน ยึดยาเสพติดมโหฬาร

Related Posts