แม่วอน “ปวีณา” ช่วยลูก ป.5 ป่วยหนักหลังฉีดวัคซีน HPV

แม่เดินทางจากจังหวัดนนทบุรีเข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (4 มิ.ย. 68) เพื่อขอความช่วยเหลือหลังจากลูกสาววัย 11 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.5 ป่วยหนักอย่างไม่คาดคิดหลังได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) เข็มที่ 2
โดยแม่เล่าว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) ลูกสาวของเธอ ได้รับวัคซีน HPV เข็มแรกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 โดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่หลังจากฉีดเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพียงไม่นาน ลูกสาวก็เริ่มมีอาการผิดปกติอย่างรุนแรง ภายในหนึ่งเดือนแรกมีประจำเดือนมามากผิดปกติถึง 3 ครั้ง มีเลือดออกตามไรฟัน ปวดตามข้อกระดูก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตัวซีดเหลือง และมือเท้าชา

อาการของ ลูกสาว ทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 28 มีนาคม 2568 แม่ต้องพาไปพบแพทย์ที่คลินิก ก่อนจะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 1 แพทย์ตรวจพบว่ามีภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรงและต้องให้เลือดถึง 2 ถุง แม้จะนอนโรงพยาบาล 4 วัน แต่ค่าเกล็ดเลือดก็ยังไม่ดีขึ้น จึงถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแห่งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 แพทย์ทำการเจาะไขสันหลังและวินิจฉัยว่าเป็น “โรคภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด” พร้อมให้ยาสเตียรอยด์เพื่อกดภูมิคุ้มกันและให้เลือดเพิ่มเติม

จนกระทั่งสถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 ด.ญ.บี เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มือเท้าชา และในวันที่ 7 เมษายน 2568 แพทย์ได้ทำ CT สแกน พบว่ามีเลือดออกในสมองหลายจุด โดยจุดที่เลือดออกมากที่สุดคือ “ก้านสมอง” ซึ่งน่าเศร้าที่วันดังกล่าวเป็นวันสุดท้ายที่ลูกสาวของคุณแม่สามารถพูดได้ ก่อนจะไม่มีการตอบสนองและถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 ในห้อง ICU
ที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 แพทย์วินิจฉัยว่า ด.ญ.บี ป่วยเป็น “โรคแพ้ภูมิตัวเอง” หรือ (SLE) และทำการปลูกถ่ายเลือด รวมถึงให้ยากดภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม ด.ญ.บี ยังคงเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ทั้งลำไส้ติดเชื้อ ปอดติดเชื้อ และปอดแฟบ จนถึงขณะนี้ผ่านมา 2 เดือน ด.ญ.บี ยังคงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล มีเพียงการตอบสนองด้วยการหลั่งน้ำตาเมื่อคุณแม่พูดอยู่ข้างหู แพทย์ยังได้แนะนำให้คุณแม่ทำบัตรคนพิการให้ลูกสาว เนื่องจากโอกาสรอดชีวิตมีน้อยมาก และหากรอดก็อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
คุณแม่ผู้ใจสลายกล่าวว่า “แม่ใจแทบสลาย เมื่อก่อนลูกสาวเป็นเด็กที่ร่าเริงแข็งแรง แต่จู่ๆ กลับมาป่วยหนักรักษาตัวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งน้องมามีอาการหลังจากฉีดวัคซีน HPV ไม่นาน จึงอยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยตรวจสอบให้ความกระจ่าง กรณีของลูกสาวอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนไปทำลายเกล็ดเลือดได้หรือไม่ ขอให้ช่วยเหลือครอบครัวของแม่ด้วย”
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทางมูลนิธิฯ จะขอคำปรึกษาจาก นายแพทย์ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี (สสจ.นนทบุรี) เพื่อขอรายละเอียดอาการป่วยของเด็ก เพื่อวินิจฉัยโรคที่เด็กเป็นอยู่ขณะนี้และขั้นตอนการรักษาในระยะยาว เนื่องจากคุณแม่ยืนยันว่าลูกแข็งแรงดีก่อนที่จะมีอาการป่วยหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 และแพทย์ระบุว่าเป็นโรค SLE จึงจำเป็นต้องมีการวินิจฉัยเพื่อหาข้อเท็จจริงในอาการป่วย นอกจากนี้ นางปวีณาจะประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อขอข้อมูลสุขภาพของเด็กจากโรงเรียนมาประกอบการพิจารณาด้วย

ในวันนี้ มูลนิธิปวีณาฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 5,000 บาท ให้กับครอบครัวของคุณแม่ และจะติดตามความคืบหน้าของคดีร่วมกับ สสจ.นนทบุรีต่อไปอย่างใกล้ชิด

Total
0
Shares
Previous Article

รถบัสชนเสาไฟฟ้าแยก คปอ.เร่งช่วยผู้ติดค้าง-ควบคุมแก๊สรั่ว

Next Article

ทลายเครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 4.2 แสนเม็ด พร้อมอาวุธปืน

Related Posts