เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่ศาลแรงงานภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดีที่แรงงานลูกจ้างชาวจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 754 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทฟูไนไทยแลนด์จำกัดเป็นจำเลยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
โดยนัดนี้เป็นการสืบพยานอีก 53 ปากสุดท้ายศาลใช้เวลาสืบทั้งเช้าทั้งบ่ายจนแล้วเสร็จ และมีคำสั่งให้ฝ่ายลูกจ้างชนะคดีตามคำฟ้อง และออกหมายบังคับคดีให้บริษัทจำเลยนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาแต่ละคนจำนวนไม่เท่ากัน หากไม่ชำระให้ออกคำ บังคับเพื่อยึดที่ดินของจำเลยออกขายทอดตลาดมาชำระหนี้
นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และนายอรชพร สิงห์ชัยทนายความ หัวหน้าชุด และคณะทีมงานทนายความอาสา จังหวัดนครราชสีมา นำพยานลูกจ้าง เข้าสืบพยานโจทก์ เรียกค่าเสียหายและค่าชดเชย คดี บริษัทฟูไนไทยแลนด์ จำกัด ที่ศาลแรงงานภาคสาม อีก 53 สำนวนคดีสุดท้าย
ซึ่งคดีก่อน ศาลได้พิจารณาพิพากษาคดีเสร็จสิ้นแล้ว 699 คดี คณะทนายความอาสาจังหวัดนครราชสีมา ได้นำพยานลูกจ้าง ผู้เสียหาย เข้าเบิกความสืบพยานครบ 754 คดีแล้ว จึงขอ อบคุณคณะทนายความอาสา พี่เสียสละเวลา อุทิศตนมาทำงานให้กับประชาชนโดยที่ประชาชนไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย
หลังจากศาลพิพากษาครบ 754 คดีแล้ว ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ก็จะยื่นคำร้องขอส่งคำบังคับให้ บริษัทฟูไน(ไทยแลนด์)จำกัด จำเลย ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่ทราบคำบังคับ
หากครบกำหนดตามคำบังคับแล้ว ทางบริษัทฟูไน(ไทยแลนด์)จำกัด ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ไม่นำเงินมาวางชำระหนี้ที่ศาล ทางทนายความ ก็จะยื่นคำร้องขอแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ทำการยึด อายัด ทรัพย์สินของจำเลย(บริษัทฟูไน(ไทยแลนด์)จำกัด นำออกขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ให้แก่ผู้เสียหาย พนักงานลูกจ้างทุกคนต่อไป
